ข้อแตกต่างระหว่าง มอเตอร์ไซค์ที่ใช้ไฟฟ้า กับ มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ปกติทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง




หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีของยานพาหนะ คือ พลังงานหรือเชื้อเพลิง ผู้คนจึงเสาะหาแหล่งพลังงานมาใช้ในการขับเคลื่อนพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น พลังงานไอน้ำที่ได้มาจากการเผาไหม้ของถ่านหิน พลังงานน้ำมันที่ได้มาจากกระบวนการกลั่นน้ำมัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ในการขับเคลื่อนพาหนะ โดย น้ำมัน คือแหล่งเชื้อเพลิงที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา จึงไม่น่าแปลก ที่เรามักให้ความสนใจกับข่าวของยานพาหนะใหม่ๆ ที่ใช้พลังงานรูปแบบอื่นๆ อย่าง “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน และหลายคนมองว่าอาจเป็นพาหนะที่จะใช้กันอย่างแพร่หลายตามท้องถนนในอนาคต สังเกตได้จากหลายๆ แบรนด์หลายๆ ผู้ผลิต หันมาพัฒนาและผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรมกันมากขึ้น 


ในบทความนี้ CAMEL TIRE ขอพาเพื่อนๆ ไปทราบถึงข้อเปรียบเทียบต่างๆ ระหว่าง “มอเตอร์ไซค์ที่ใช้ไฟฟ้า” กับมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ปกติทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ว่ามีจุดที่เหมือนและจุดที่แตกต่างกันอย่างไร และเหตุผลว่าทำไมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ถึงเป็นยานพาหนะ 2 ล้อแห่งอนาคต ที่ไม่ควรมองข้าม 


ในด้านของน้ำหนัก ขนาด หรือรูปทรงโดยรวมนั้น ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ที่เหลือจะเป็นการออกแบบดีไซน์รูปลักษณ์ที่แตกต่างกันเป็นปกติตามแต่ผู้ผลิตแต่ละเจ้า ซึ่งความแตกต่างใหญ่ที่เห็นได้ชัด จะเป็นเรื่องของ ระบบการทำงานและระบบการชาร์จเสียมากกว่า 


เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทำให้ไม่มีขั้นตอนการเผาไหม้มาเกี่ยวข้อง การขับเคลื่อนของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงเงียบมากๆ เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป จนบางครั้งผู้ผลิตบางเจ้า ถึงกับต้องติดตั้งอุปกรณ์สร้างเสียงเทียมขึ้นมาเพื่อเพิ่ม อรรถรสในการขับขี่


ในด้านการดูแลรักษา มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นต้องการการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการบำรุงรักษามอเตอร์ไซค์ทั่วไป โดยจุดที่ต้องดูแลและต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ แบตเตอรี่ มอเตอร์และพวกระบบการควบคุม นอกเหนือจากนี้จะเป็นส่วนของการบำรุงรักษาตามอายุการใช้งานเพียงเท่านั้น เช่น ผ้าเบรค น้ำมันเบรค ยาง เป็นต้น 


ซึ่งเหตุผลที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต้องการการดูแลที่น้อยกว่า คือ การไม่ใช้ระบบน้ำมัน ทำให้ไม่ต้องมากังวลเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์เลย แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันศูนย์บริการหรือช่างผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็ยังมีจำนวนไม่มากเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนเป็นที่คุ้นเคยไปแล้ว นอกจากนั้นราคาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่หรืออะไหล่บางชิ้น อาจมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควรหากเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป 


ในเรื่องของสมรรถนะและขีดความสามารถของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้น สามารถเทียบเคียงกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมรถ จนไปถึงเรื่องของการทำความเร็ว แต่ข้อจำกัดใหญ่ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโดยส่วนใหญ่คือ ระยะทาง เนื่องจากแบตเตอรี่นั้นไม่สามารถเก็บพลังงานได้มากเท่ากับที่น้ำมันทำได้ รวมไปถึงเรื่องของระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่หรือเติมพลังงาน ที่ต้องใช้เวลามาก อาจเป็นชั่วโมงสำหรับบางรุ่นในการชาร์จให้เต็ม ซึ่งนานมากเมื่อเทียบกับการเติมน้ำให้เต็มถังที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที


แต่ถึงอย่างนั้นระยะทางสูงสุดที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบันทำได้ก็ถือว่ามากพอสำหรับการใช้งานในเมืองหรือใน ชีวิตประจำวัน แม้อาจมีปัญหาเวลาขับระยะทางไกลๆ หรือออกทริปยาวๆ นอกจากเรื่องของ ระยะทางและระยะเวลาในการชาร์จพลังงาน ข้อจำกัดอีกอย่างของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือ เรื่องของจำนวนสถานีชาร์จในปัจจุบัน ที่มีจำนวนค่อนข้างน้อยและกระจุกตัวอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆเท่านั้น หากต้องการให้สามารถชาร์จพลังงานที่บ้านได้นั้น ก็อาจต้อง เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในบ้านใหม่เพื่อให้รองรับกับการชาร์จพลังงานของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า


ในมิติของการประหยัดพลังงานและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากเทียบกับน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในการเติมพลังงานไฟฟ้านั้นประหยัดเงินมากกว่าค่าน้ำมันในระยะยาว ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่ามาก เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จะไม่มีการปล่อยไอเสีย 100% เนื่องจากระบบขับเคลื่อนและการทำงานทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้เลย ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการรักษาสิ่งแวดล้อมไปโดยปริยาย แม้ว่าการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันยังใช้ถ่านหิน และการกำจัดแบตเตอรี่ที่หมดสภาพแล้วในอนาคตยังเป็นคำถามข้อใหญ่เกี่ยวกับเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ตาม


ในด้านของราคา น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นจะมีราคาที่สูงกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไปในสมรรถนะที่ใกล้เคียงกัน ทั้งด้วยเหตุผลด้านกลไกทางการตลาดและกระบวนการผลิต แม้ว่าราคาจะมีการลดลงมาบ้างแล้ว พร้อมกับการแข่งขันของผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้นก็ตาม


จากกระแสของโลกในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่เสมอ ส่งผลให้ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ทั้งหลายเริ่มหันมาผลิตและพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าปล่อยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ด้วยกลไกการตลาดและเทคโนโลยีที่พัฒนาในอนาคตข้อจำกัดหลายๆอย่างในปัจจุบันของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เช่น ราคา การเติมพลังงาน สมรรถนะหรือศูนย์บริการของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็มีโอกาสที่จะถูกแก้ไขเพื่อเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างงั้นมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันก็น่าจะยังคงมีอยู่ต่อไป


ทั้งนี้ไม่ว่าตอนนี้หรืออนาคตคุณจะใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน ยางก็ยังเป็นอะไหล่ที่จำเป็นอยู่คู่ติดรถเสมอไม่ได้หายไปไหน หากต้องการยางคุณภาพ CAMEL TIRE ก็พร้อมที่จะรับใช้และอยู่เคียงคู่ทุกการเดินทางของคุณไม่เปลี่ยนแปลง